ทำความรู้จัก Apple Intelligence คุณสมบัติฉลาดๆ สำหรับ iPhone iPad และ Mac ที่ทำทุกอย่างให้คุณง่ายขึ้น
ช่วง Keynote ในงาน WWDC 2024 จุดที่เป็นไฮไลท์สำคัญนอกเหนือจากการเปิดตัว iOS 18, iPadOS 18, macOS Sequoia, watchOS 11, visionOS 2, tvOS 18 คือ การเปิดตัว Apple Intelligence หรือจะหากใครจะเรียกว่าสั้นๆ ว่า AI ในฉบับ Apple ก็ย่อมได้ แล้ว Apple Intelligence จะมีประโยชน์อย่างไรกับ iPhone, iPad, Mac บ้าง เรามาดูกัน
สรุป Apple Intelligence ทำอะไรได้บ้าง ?
1. Apple Intelligence เพิ่มเติม Writing Tools ใหม่ๆ ช่วยหาคำที่เหมาะสมได้จากทุกแอปที่รองรับการเขียน ด้วยความสามารถทางภาษาที่เพิ่มขึ้น สามารถสรุปการบรรยายทั้งบทได้ในไม่กี่วินาที ย่อและสรุปบทสนาทยาวได้ และลดการรบกวนที่ไม่จำเป็นด้วยจัดลำดับการแจ้งเตือนที่มีความสำคัญ
2. Writing Tools ที่มีความฉลาดขึ้น สามารถตรวจสอบข้อความและช่วยเขียนใหม่ในหลายเวอร์ชั่น อาทิ เขียนในเชิง Friendly, Professional ตลอดจนแนะนำการใช้คำที่ถูกต้อง และยังสามารถสรุปข้อความที่เลือกด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว โดย Writing Tools นี้ใช้ได้กับทุกแอปที่รองรับการเขียน รวมถึงแอปประเภท third-party ด้วย
3. ข้อความสำคัญใน Mail ยกระดับข้อความที่มีความสำคัญเร่งด่วนให้ขึ้นไปอยู่ด้านบนของกล่องจดหมาย เช่น คำเชิญที่มีวันกำหนดเส้นตายวันนี้ หรือการเตือนการเช็คอินเที่ยวบินของในช่วงบ่าย
4. แตะเพื่อสรุปจากอีเมลที่มีความยาวในแอป Mail เพื่อเข้าถึงประเด็นสำคัญ และยังดูสรุปอีเมลได้จากกล่องจดหมายได้เลย
5. Apple Intelligence จะสามารถบันทึกเสียงขณะที่เราคุยโทรศัพท์ผ่านแอป Phone พร้อมถอดเสียงนั้นให้ออกมาเป็นรูปแบบข้อความและบันทึกในแอป Notes ได้
6. Reduce Interruptions เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน Focus ที่เข้าใจเนื้อหาการแจ้งเตือนและแสดงสิ่งที่สำคัญได้ทันที
7. Smart Reply ใน Mail โดย Apple Intelligence สามารถระบุคำถามที่คุณถูกถามในอีเมล และเสนอตัวเลือกคำตอบที่เกี่ยวข้องไว้ให้
8. Image Wand เปลี่ยนภาพสเก็ตที่วาดขึ้นด้วยมือในแอป Notes หรือวาดด้วย Apple Pencil ให้เป็นภาพ AI โดย Image Wand จะวิเคราะห์เนื้อหาหรือข้อมูลที่เราอธิบายไว้ในขณะที่วาดขึ้น
9. Image Playground ช่วยสร้างภาพใหม่ทั้งหมดตามเมนูแนะนำ, สามารถออกแบบภาพจากรูปบุคคลให้เป็นสไตล์ Animation, illustration หรือภาพ sketch ได้ และยังสามารถปรับเปลี่ยนภาพเพื่อให้ตรงกับการสนทนาใน Messages, ในแอป Freeform หรือสไลด์ใน Keynote ได้
10. Genmoji อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำอธิบาย เพื่อให้ Apple Intelligence ออกแบบภาพที่ตรงตามที่เราต้องการ และสามารถเลือกรูปภาพบุคคลใดก็ได้เพื่อสร้าง Genmoji ที่มีลักษณะเหมือนกับพวกเขาเหล่านั้นได้
11. Memory movie สร้างวิดีโอจากรูปภาพและวิดีโอในแอป Photos เพียงพิมพ์คำอธิบาย จากนั้น Apple Intelligence จะค้นหารูปภาพและวิดีโอที่ดีที่สุดที่ตรงกัน พร้อมกับสร้างวิดีโอให้อัตโนมัติ
12. ค้นหารูปภาพและวิดีโอในแอป Photos เพียงแค่พิมพ์สิ่งที่กำลังค้นหา
13. ลบสิ่งรบกวนในรูปภาพด้วยเครื่องมือ Clean Up ในแอป Photos
ยุคใหม่ของ “Siri”
Siri นำพลังจาก Apple Intelligence มาใช้ในการเพิ่มความสามารถใหม่ทั้งหมด ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ความเข้าใจภาษาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และความสามารถในการพิมพ์เพื่อสั่งงาน Siri การสื่อสารกับ Siri อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าที่เคยและเข้าใจบริบทต่างๆ มากขึ้น สามารถใช้งานแอปและข้ามไปใช้งานร่วมกับแอปอื่นๆ ได้
Siri ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ตั้งแต่โลโก้ ไปจนถึงรูปแบบการรับคำสั่งของ Siri ที่เปลี่ยนจากไอคอนวงกลม ให้เป็สีสันบริเวณขอบทั้งสี่ด้านของหน้าจอแสดงผล นอกจากนี้ใครที่ไม่ต้องการสั่งงานด้วยเสียง ต้องการพิมพ์ข้อความเพื่อสั่งงาน Siri เพียงแตะสองครั้งที่ด้านล่างของหน้าจอ iPhone หรือ iPad ก็สามารถพิมพ์คำสั่งถึง Siri ได้
“ความเป็นส่วนตัว” เรื่องใหญ่ที่ขาดไม่ได้
Apple Intelligence ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในทุกขั้นตอน ซึ่งถูกรวมเข้าในแกนหลักของ iPhone, iPad และ Mac ผ่านการประมวลผลในอุปกรณ์ (On-device processing) เข้าใจลักษณะการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้โดยไม่เก็บข้อมูลส่วนตัว และด้วย Private Cloud Compute ทำให้ Apple Intelligence สามารถใช้โมเดลเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งทำงานบน Apple silicon เพื่อจัดการกับการเรียกใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้นได้โดยที่ยังปกป้องความเป็นส่วนตัวได้
ChatGPT 4o ฟรี !! บน iPhone
ความร่วมมือระหว่าง Apple กับ OpenAI นำมาสู่การให้บริการ ChatGPT 4o ฟรี ! ใน iPhone ที่อัพเดทเป็น iOS 18 และ Mac ที่อัพเดทซอฟต์แวร์เป็นรุ่นล่าสุด macOS Sequoia ซึ่งผู้ใช้จะได้ใช้งานในช่วงปลายปี 2024 ซึ่งจะเป็นการผสานการทำงานร่วมกับ Siri โดยระบบจะถามผู้ใช้ก่อนเสมอก่อนที่จะส่งคำถามใดๆ ไปยัง ChatGPT
Apple Intelligence มาทีหลัง แต่ได้เปรียบในระยะยาว
แม้ Apple จะถูกปรามาสว่า ไม่ได้อยู่แถวหน้าของการแข่งขันในเทคโนโลยี AI เหมือน Google หรือ OpenAI แต่ Apple กำลังมุ่งเน้นไปที่การผสาน AI เข้ากับ Ecosystem ของตัวเอง ที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้และเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์
นวัตกรรม AI หลักของ Apple คือ การรันโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ในอุปกรณ์แทนที่จะพึ่งพาการประมวลผลผ่านคลาวด์ วิธีการนี้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานและให้ความเป็นส่วนตัว เนื่องจากข้อมูลของผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลเพื่อประมวลผล ซึ่งอาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมโดยเฉพาะสำหรับ “Siri” ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้นและปลอดภัยมากขึ้นโดยการเก็บรักษาการโต้ตอบของผู้ใช้ไว้ในอุปกรณ์
ดังนั้นจะเห็นว่า Apple กำลังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งโดยเน้นไปที่ความเป็นส่วนตัว การผสานรวม Apple Intelligence เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งนั่นทำให้ Apple มีความได้เปรียบอย่างมากต่อการแข่งขันเทคโนโลยี AI ในระยะยาว
ที่มา : Apple , Fast Company
