เทียบภาพถ่าย Samsung Galaxy S10+ กับ Huawei Mate 20 Pro
เป็นบทความแรกของเว็บตามใจ (tarmjai.com) ก็ว่าได้ที่ผมหยิบสมาร์ทโฟนสองรุ่นที่ผมเชื่อว่าถ่ายรูปดีที่สุดในตอนนี้ รุ่นหนึ่งเปิดตัวปลายปี 2018 คือ Huawei Mate 20 Pro กับอีกรุ่นเปิดตัวปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2019 คือ Samsung Galaxy S10+
ในบทความนี้ผมจะข้ามเรื่องดีไซน์, การใช้งาน, เล่นเกม และแบตเตอรี่ของทั้งสองเครื่องไปนะครับ จะเน้นเรื่องถ่ายภาพนิ่งและทดสอบวิดีโอเป็นหลักครับ
สเปกกล้อง Huawei Mate 20 Pro
กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่
- เลนส์มุมกว้าง Ultra Wide Angle ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ปกติ ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ซูม 5 เท่า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4
- ถ่ายวิดีโอ ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30 fps
กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0
สเปกกล้อง Samsung Galaxy S10+
กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่
- เลนส์มุมกว้าง Ultra Wide Angle ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ปกติ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงแบบสลับเองอัตโนมัติ f/1.5 & f/2.4
- เลนส์ซูม 2 เท่า ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4
- ถ่ายวีดีโอ ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 fps
กล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นผมเปิดใช้ AI ช่วยถ่ายภาพทั้งหมด เป็นตัวช่วยถ่ายภาพ คอยปรับแสงสีของภาพให้อัตโนมัติ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถ่ายรูปให้ออกมาดูดีได้
และภาพที่ผมนำมาลงในเว็บตามใจ (tarmjai.com) ไม่มีแต่งเพิ่มใดๆ แค่ลดขนาดภาพลงมาเท่านั้นครับ
อาหาร (ถ่ายตอนกลางคืนในร้านอาหารริมถนน )
Huawei Mate 20 Pro : จะเห็นว่าสีของอาหารจะค่อนข้างสด แต่ไม่โอเว่อร์เกินไป รายละเอียดในภาพเห็นชัดเจน ให้ความสว่างอยู่ในระดับที่ดี
Samsung Galaxy S10+ : ความสดของสีจะน้อยกว่า Mate 20 Pro รายละเอียดของภาพชัดเจน ให้ความสว่างในระดับที่ดี ไม่ต่างจาก Mate 20 Pro นัก
สภาพแสงน้อย / ถ่ายในเวลาประมาณ 18.30 น.
Huawei Mate 20 Pro : ประสิทธิภาพของ AI ที่คอยตรวจจับสภาพแสงในละเวลา ช่วยเกลี่ยความสว่างให้ทั่วทั้งภาพ
Samsung Galaxy S10+ : มี AI ช่วยตรวจจับสภาพแสงเช่นกัน ให้สีที่เป็นดูเป็นธรรมชาติ สังเกตจากความสว่างที่พุ่มไม้ด้านซ้าย และสนามกีฬาด้านขวาที่ความสว่างไม่ฟุ้งเกินไป
ภาพเล่นกีฬาช่วงกลางคืน
Huawei Mate 20 Pro : สีและสว่างของภาพเล่นกีฬาช่วงกลางคืนที่ถ่ายจาก Mate 20 Pro นี้ ยังให้ความรู้สึกถึงความสดของสีและมีความคมชัด , แสงสีขาวจากหลอดไฟไม่ฟุ้ง
Samsung Galaxy S10+ : การกระจายความสว่างถือว่าเกลี่ยได้ทั่วทั้งภาพ, สีไม่สดเกินไป, แสงสีขาวจากหลอดไฟฟุ้งเล็กน้อย
ถ่ายการจราจรช่วงกลางคืน
Huawei Mate 20 Pro : เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ในช่วงกลางคืน จะเห็นว่า Mate 20 Pro ยังคงความเข้มของสีไว้อย่างเหนียวแน่น, ภาพชัดอยู่ในระดับที่ดี, แสงสีส้มจากหลอดไฟสีส้มฟุ้งเล็กน้อย, มี nosie หรือจุดบนภาพไม่เยอะ
Samsung Galaxy S10+ : โทนสีของภาพในช่วงกลางคืนจะอ่อนกว่า Mate 20 Pro, ความสว่างกระจายตัวทั่วทั้งภาพ, แสงจากหลอดไฟสีส้มฟุ่งกว่า Mate 20 Pro เล็กน้อย, มี nosie หรือจุดบนภาพไม่เยอะ
ถ่ายกลางคืน
Huawei Mate 20 Pro : ในสถานที่นี้เรียกว่าค่อนข้างมืด มีเพียงแสงไฟจากในบ้านเท่านั้น ซึ่ง AI ใน Mate 20 Pro ช่วยปรับภาพให้มีความสว่างเพิ่มขึ้นอัตโนมัติด้วยการดันในระดับสูงสุดที่ ISO 12800 เป็นค่า ISO สูงสุดที่ Mate 20 Pro ทำได้ แต่ภาพก็จะมี nosie หรือจุดบนภาพค่อนข้างเยอะ
Samsung Galaxy S10+ : ความสว่างอาจไม่มากเท่า Mate 20 Pro ส่วนหนึ่งเพราะ ISO สูงสุดของ S10+ อยู่ที่ 1250 และปรับรูรับแสงอัตโนมัติให้กว้างสุด f/1.5 ดังนั้นภาพถ่ายบ้านเวลากลางคืนนี้จึงไม่สว่างจนเว่อร์นัก
ถ่ายภาพมุมกว้าง (Ultra Wide)
โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง (Ultra Wide) เป็นอีกลูกเล่นที่เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายวิว, ถ่ายกลุ่มคนจำนวนมาก ซึ่ง Mate 20 Pro และ S10+ มีโหมดนี้ด้วยกันทั้งคู่ ส่วนรุ่นไหนจะทำได้ดีกว่า ลองดูจากภาพถ่ายนี้ครับ
Huawei Mate 20 Pro
ภาพซ้าย : มุมปกติ, ภาพขวา : มุมกว้าง
ภาพซ้าย : มุมปกติ, ภาพขวา : มุมกว้าง
ภาพซ้าย : มุมปกติ, ภาพขวา : มุมกว้าง
Samsung Galaxy S10+
ภาพซ้าย : มุมปกติ, ภาพขวา : มุมกว้าง
ภาพซ้าย : มุมปกติ, ภาพขวา : มุมกว้าง
ภาพซ้าย : มุมปกติ, ภาพขวา : มุมกว้าง
ภาพถ่ายมุมกว้างของ Mate 20 Pro กับ Galaxy S10+ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าทำได้ดีทั้งสองเครื่อง ซอฟต์แวร์ของกล้องช่วยลบความโค้งของภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้างให้อัตโนมัติได้อย่างแนบเนียน, สีของภาพชัดเจน
ถ่ายภาพ Portrait
ใน Mate 20 Pro หากเลือกถ่ายภาพคน AI จะช่วยเลือกโหมดถ่ายภาพบุคคลให้อัตโนมัติ และเราสามารถปรับระดับความเนียนบนใบหน้าได้,รวมถึงเลือกได้เองว่าอยากให้ฉากหลังเบลอเป็นรูปอะไรได้ เช่น เป็นวงกลม หรือรูปหัวใจ เป็นต้น
ส่วน Galaxy S10+ ผมเลือกใช้โหมด Live Focus เป็นอีกตัวช่วยถ่ายภาพคน เลือกได้ว่าอยากให้ฉากหลังเบลอเป็นลักษณะใด และปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ถึง 7 ระดับ
ทั้งสองภาพ Portrait เห็นชัดเจนว่า Mate 20 Pro ให้ความเข้มของสีและรายละเอียดที่ชัดเจน ความเบลอของฉากหลังไม่เกินขอบเข้ามาที่ตัวแบบ
ส่วน Galaxy S10+ ด้วยโหมด Live Focus ผมปรับความเบลของฉากหลังอยู่ในระดับ 3 ความเบลอของฉากหลังไม่เกินขอบเข้ามาที่ตัวแบบ และความเข้มของสีอ่อนกว่า Mate 20 Pro แต่มีความสว่างเข้ามาทดแทน และตัวแบบไม่ลอยจากฉากหลัง
ทั้งหมดนี้เป็นภาพที่ผมคัดเลือกและนำมาบอกต่อให้กับผู้อ่านทุกคนได้เห็นถึงความแตกต่างของกล้อง Huawei Mate 20 กับ Samsung Galaxy S10+ ซึ่งผมจะไม่ขอฟันธงว่ารุ่นไหนคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะความชอบของผู้อ่านแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนตัวของผม Huawei Mate 20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องที่ให้สีที่สดและความละเอียดของภาพที่ชัดเจน ขณะที่ Samsung Galaxy S10+ เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องที่ให้ความสว่างได้ทั่วทั้งภาพและให้ความละเอียดที่ชัดเจน
ฉะนั้นแล้วหากผู้อ่านที่กำลังมองหากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ถ่ายภาพได้สวยๆ หรือเล็งสองรุ่นนี้อยู่ อยากให้ไปตามช้อปแล้วลองสัมผัส ลองถ่ายภาพกันก่อนตัดสินใจซื้อครับ