ClubHouse ในวันที่กำลังปัง ! ใช้มาหลายวัน เลยมาเล่าสักนิดนึง
หลายวันมานี้ผมใช้เวลาส่วนหนึ่งไป join ตามห้องต่างๆ ของ ClubHouse แอปฯ ที่เรียกได้ว่าเป็นสังคมออนไลน์แห่งใหม่ และในมุมมองของผมก็อาจเรียกได้ว่าเป็น Gossip app ก็ได้นะ
เรื่องของ ClubHouse คืออะไร, invitation ยังไง เทคนิคต่างๆ ผมคงไม่พูดถึงในคอนเทนต์นี้เพราะสามารถหาอ่านได้ตามเว็บไซต์และหลายๆ แฟนเพจที่บอกเล่าเรื่องพวกนี้กันไปสักพักใหญ่แล้ว ซึ่งผมในฐานะแอดมินเพจตามใจที่ได้ไปสัมผัส ClubHouse มาหลายวันก็จะบอกเล่าให้ผู้อ่านได้อ่านกันบ้างว่ารู้สึกอย่างไรความปังของแอปฯ นี้ในเวลานี้
“ของใหม่ มาแรง ต้องเล่นถึงจะรู้”
เป็นคำพูดง่ายๆ ที่คงไม่เกินจริงนัก ด้วยความที่ไม่ใช่ทุกคนจะเล่นได้ แต่ต้องได้รับการ invitation จากเพื่อนของเราซะก่อน แถมตอนนี้ยังใช้งานได้กับระบบ iOS เท่านั้น
ยิ่งเข้ายาก ยิ่งดึงดูดให้คนพยายามหาเพื่อน หาคนใกล้ตัวที่ใช้ iPhone ช่วย invitation ฉันที เรียกว่ากว่าจะเข้าไปใช้ได้ก็ยากเย็นกว่า Facebook, Twitter, TikTok มันจึงกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนอยากรู้อยากเห็นอยากเข้าไปลองใช้
ความพิเศษของ ClubHouse
คือ การสร้างความรู้สึกที่พิเศษให้กับคนที่ได้เข้าไปใช้งาน รู้สึก Exclusive เหมือนเราได้รับเชิญให้เข้าไปร่วมวงในงานสังคมสักอย่าง เราสามารถเข้าไปร่วมวงตามห้องต่างๆ เพื่อฟังว่าเขาคุยอะไรกัน หากไม่สนุก รู้สึกเบื่อ รำคาญ ก็สามารถย่องเงียบออกมาจากห้องได้ทันที
ว่าด้วยเรื่องของห้องต่างๆ ใน ClubHouse ต้องบอกเลยว่ามีสารพัดหัวข้อตั้งแต่เรื่องจริงจัง การใช้ชีวิตประจำวัน เรื่องสังคม การเมือง การเงิน เศรษฐกิจ ไปจนถึงเรื่องบันเทิง เบาสมอง บางวันก็เจอห้องปรึกษาปัญหาชีวิต, บางห้องให้คนที่เข้ามา join ร้องเพลงให้นักร้องมืออาชีพฟัง ประหนึ่งเป็นการออดิชั่นยังไงยังงั้น หรือจะเป็นห้องสอนศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับทางเพศ หรือจะเป็นห้องที่ชวนให้คนฟังมาทำเสียงหล่อเหมือนในหนังจีนก็ยังมีนะ ซึ่งบ่อยครั้งที่ทำให้ผมประหลาดใจที่ไม่คิดว่าจะมีคนมาตั้งหัวข้อในเรื่องแปลกๆ ในนี้ด้วย และมีอีกเยอะแยะมากมายที่ผมบอกเลยว่าจะมีเยอะขึ้นอีกเรื่อยๆ
เสน่ห์อีกอย่างที่ผมรู้สึกได้ คือ การที่แอปฯ สามารถให้ใครก็ได้สร้างห้องเพื่อถกประเด็นหรือพูดคุยในเรื่องที่อยากคุย ซึ่งบางเรื่องอาจไม่สามารถพูดในโซเชียลอื่นได้ ที่สำคัญการที่เข้าไป join ตามห้องที่เราสนใจ อยากจะฟัง อยากจะรู้ ทำให้เราได้มีโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สอบถามข้อสงสัยกับคนที่เป็น Moderator และ Speaker ประจำห้องนั้นๆ ซึ่งอาจเป็นใครสักคนที่มีชื่อเสียง เป็นอาจารย์ เป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่เราไม่ได้พบเจอบ่อยๆ หรืออาจจะเห็นตามโซเชียล ตามหน้าจอทีวี แต่ใน ClubHouse ช่วยสร้างโอกาสให้เรากล้าที่จะพูด กล้าปรึกษา ช่วยลดช่องว่างของความสงสัย ความอยากรู้ที่เวลาเราอยากจะรู้เรื่องอะไรแต่เราไม่กล้าถามหรือไม่รู้จะไปถามใคร
ใช่ว่าจะไม่เจอเรื่องไม่คาดคิด
ใช้ ClubHouse มาหลายวัน ก็ใช่ว่าจะเจอทุกห้องเล่าเรื่องแบบราบรื่นเสมอไป เช่น บางห้องตั้งชื่อหัวข้อน่าสนใจมาก พอเข้าไปฟังแล้ว Moderator กับ Speaker ในบางห้องนั้นพูดไปหัวเราะไป แถมมีวนไปเรื่องอื่นบ่อยจนจับใจความเรื่องหลักไม่ได้ อีกเคส คือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตของ Speaker บางคนไม่เสถียร ทำให้ขณะเล่าเรื่องทำให้สัญญาณขาดหายเป็นบางช่วง ไม่ได้ยินเสียงของคนที่กำลังพูด ทำให้ไม่รู้ว่าช่วงที่สัญญาณสะดุดไปนั้นมีการพูดอะไรไปบ้าง
Moderator สำคัญมาก
สิ่งที่ผมคิดว่าคนที่เป็น Moderator ต้องระวังอยู่เสมอ คือ อาจมีดราม่า เปิดไมค์ด่า แม้ตอนนี้ผมจะไม่เคยเจอ แต่ก็เป็นสิ่งที่ผมคิดเผื่อไว้ เพราะบางครั้งการคุยเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคมอาจมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้นคนที่เป็น Moderator จึงไม่ควรมีหลายคนเกินไป และจำเป็นที่ต้องกำหนดโทนของการเล่าเรื่อง การตั้งหัวข้อ ไปจนถึงการควบคุมบรรยากาศของการพูดและการฟังให้อยู่ในระเบียบเรียบร้อยด้วย
จากที่เล่ามาเป็นประสบการณ์ที่ผมได้เข้าไปสัมผัสใน ClubHouse ด้วยตัวเอง สำหรับผมมันคือการเปิดโลกใหม่ ได้เจอคนดัง คนที่มีความรู้ คนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน มาเล่าเรื่องให้ฟังและหลายเรื่องก็เป็นเรื่องที่เราอยากรู้แต่ไม่กล้าถามและไม่รู้จะไปถามใคร
หลังจากนี้ล่ะ ?
หลังจากนี้ก็น่าคิดว่า ClubHouse จะยังได้รับความนิยมไปอีกนานแค่ไหน เพราะสิ่งที่ท้าทายและอาจทำให้ ClubHouse จะค่อยๆ เสื่อมความนิยมลง ได้แก่ Facebook และ Twitter ที่หันมาพัฒนาฟังก์ชันที่คล้ายกัน ที่สำคัญคือ เรื่องของกฎหมายที่อาจสั่งแบน เพราะมีหัวข้อและเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย
แต่ตอนนี้ใครที่กำลังสนุกสนานอยู่กับ ClubHouse อย่าลืมแบ่งเวลาทำอย่างอื่นบ้างนะครับ