โปรดฟังอีกครั้ง เงินดิจิทัล 10000 ซื้ออะไรได้บ้าง รอนานไหม ได้เมื่อไหร่
บทสรุปของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย รอบที่ 3 ในวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566 สิ้นสุดลงด้วยคะแนนโหวต 482 เสียงจาก สส. และ สว. เลือก “เศรษฐา ทวีสิน” จากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตีคนที่ 30 ซึ่งหลังจากนี้เป็นที่จับตามองอย่างยิ่งว่านโยบายที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ จะทำได้มากน้อยเพียงใด และกับนโยบายที่ประชาชนให้ความสนใจนั่นก็คือ “เงินดิจิทัล 10000 บาท” จะได้เมื่อไหร่ มีวิธีใช้อย่างไร ซื้ออะไรได้บ้าง วันนี้แอดมินตามใจขอมาสรุปให้ฟังครับ
เงินดิจิทัล 10000 บาท จะได้เมื่อไหร่ ได้อย่างไร ?
พรรคเพื่อไทยจะเร่งผลักดันออกมาให้ได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2567 โดยกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่ว่านี้จะเป็นแอปพลิเคชั่นตัวใหม่ที่ยังไม่มีการให้รายละเอียดใดๆ มากนักในเวลานี้
เงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัล
ต้องเป็นประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป โดยจะใช้จ่ายเงินดิจิทัลได้ตามสถานที่หรือร้านค้าที่อยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร นับจากที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนของตัวคุณเอง ว่ากันง่ายๆ คือ หากคุณเป็นคนต่างจังหวัดแต่มาทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครหรือนอกพื้นที่ก็จะต้องกลับไปใช้จ่ายที่ร้านค้าตามภูมิลำเนาที่อยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร นับจากที่อยู่ตามบัตรประชาชนนั่นเอง และต้องใช้ภายในระยะเวลา 6 เดือน จะใช้ครั้งเดียวเลย หรือจะทยอยใช้ก็ได้ตามที่สะดวกครับ
วิธีการใช้งาน
วิธีการใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลมีอยู่ 2 รูปแบบ อย่างแรกก็คือใช้แอปพลิเคชั่นผ่านทางโทรศัพท์มือถือไปสแกนจ่ายเงินดิจิทัลได้เลยครับกับร้านค้าที่ต้องการจะไปซื้อข้าวซื้อของ ส่วนถ้าเกิดใครไม่มีโทรศัพท์มือถือก็สามารถถือบัตรประชาชนไปใช้แทนได้ แต่อาจจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่างเพื่อเป็นการยืนยันตัวบุคคล ซึ่งต้องรอติดตามรายละเอียดที่ชัดเจนเพิ่มเติมอีกครั้ง
ใช้กับร้านค้าประเภทไหนได้บ้าง
ร้านค้าที่เราจะไปใช้บริการจับจ่ายซื้อข้าวซื้อของได้ก็เรียกว่าแทบจะทุกประเภทเลย ส่วนสำคัญก็คือร้านค้าปลายทางที่จะมีการแปรเปลี่ยนจากเงินดิจิทัลให้กลายเป็นเงินสดที่จับต้องได้ จะต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีที่เคยยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือเคยยื่นแบบภาษีนิติบุคคลมาเรียบร้อยแล้ว
ประชาชน และรัฐบาลจะได้อะไรกับนโยบายนี้ ?
1. เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น ให้ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดได้กลับไปใช้จ่ายเงินดิจิทัลในบริเวณที่อยู่ตามบัตรประชาชน
2. เป็นการกระตุ้นการลงทุนในระดับท้องถิ่น ตัวอย่าง ครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 4 คน อายุ 16 ปีขึ้นไป ได้เงินดิจิทัลรวมกัน 40,000 บาท ก็อาจทำให้เกิดความคิดที่จะลงทุนทำธุรกิจเล็กๆ นำไปสู่ลงทุนซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์ต่างๆ เป็นการสร้างอาชีพได้ เป็นต้น
3. ร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีเมื่อเกิดการจับจ่ายซื้อข้าวของมากขึ้่นผ่านเงินดิจิทัล ก็นำไปสู่การซื้อวัตถุดิบต่างๆ มากขึ้น โรงงานผู้ผลิตก็จะต้องผลิตสินค้าเพื่อรองรับกับความต้องการที่มากขึ้น นำไปสู่การจ้างงาน และแปรเปลี่ยนไปสู่การจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นของภาครัฐในอนาคต และเมื่อรัฐบาลมีรายได้มากขึ้นจากการจัดเก็บภาษีที่มากขึ้นก็จะตามมาด้วยการสร้างสวัสดิการที่ดีให้กับประชาชนได้เพิ่มขึ้น
สุดท้ายนี้ ! ก็ต้องเฝ้าติดตามว่านโยบายเงินดิจิทัล 10000 บาทที่กล่าวมานี้ รัฐบาลภายใต้การนำของเศรษฐา ทวีสิน จะสามารถทำได้จริงหรือไม่