ไฟฉุกเฉิน ใช้เมื่อไหร่ มีไว้ทำไม ? ขณะขับรถ
ผมเองเป็นคนนึงที่ขับรถยนต์อยู่เป็นประจำ เหตุการณ์ที่มักเจออยู่บ่อยๆ ในขณะขับรถข้ามสี่แยกที่ไม่มีไฟจราจร นั่นคือ รถบางคันเลือกเปิด “ไฟฉุกเฉิน” เพื่อข้ามสี่แยก จากมุมของผมที่เป็นคนขับเมื่อมีรถมาจากทางด้านซ้ายหรือด้านขวา หากรถคันนั้นเปิดไฟฉุกเฉินจะเห็นแค่ไฟกระพริบเพียงข้างเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นทำให้ผมมักเข้าใจว่ารถคันนั้นจะเลี้ยวมาทางผม จนหลายครั้งเกือบชนกัน ด้วยเหตุนี้ผมจึงมีข้อมูลของการใช้ “ไฟฉุกเฉิน” ที่ถูกต้องมาแนะนำผู้ขับรถทุกท่านครับ
1. ในกรณีที่ต้องข้ามสี่แยกที่ไม่มีไฟจราจร การเลือกเปิดไฟฉุกเฉิน “ถือว่าไม่ถูกต้อง” เพราะอย่างที่ผมบอกครับว่ามันจะทำให้เราเห็นไฟจากรถที่มาทางด้านซ้ายกับด้านขวากระพริบเพียงข้างเดียวเท่านั้น และทำให้เราเข้าใจผิดว่ารถคันนั้นจะเลี้ยว ดังนั้นวิธีที่ถูกต้องในกรณีที่ต้องขับรถข้ามสี่แยกที่ไม่มีไฟจราจร คือ ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน ใช้การชะลอรถ พร้อมกับสังเกตรถที่มาจากรอบด้านให้ดี เมื่อมั่นใจว่าสามารถขับผ่านไปได้แล้ว จึงค่อยๆ เหยียบคันเร่งไปครับ
2. ไฟฉุกเฉินสำหรับรถที่จอดเสีย หรือจอดนิ่งเฉยๆ ซึ่งตาม พรบ. จราจร มาตรา 9 และกฏหมาย ข้อ 11 กำหนดให้ใช้ไฟฉุกเฉิน เฉพาะกรณีรถเสียที่จอดอยู่กับที่เท่านั้น
3. ในกรณีที่ขับรถในขณะฝนตกหนัก หรือทัศนวิศัยแย่ การเปิดไฟฉุกเฉินถือเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะหากคุณต้องการเปลี่ยนเลน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากรถที่วิ่งมาในเลนที่คุณต้องการจะไป อาจไม่รู้ว่า จริงๆ คุณเปิดไฟฉุกเฉินหรือแค่ไฟเลี้ยว ฉะนั้นในกรณีที่ขับรถเมื่อฝนตกหนัก หรือทัศนวิศัยแย่ การชะลอความเร็วและเปิดไฟหน้าจึงเป็นวิธีที่ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องครับ
4. การใช้ไฟฉุกเฉินพร่ำเพื่อ แถมจอดแช่นิ่งๆ อาจทำให้รถที่ขับตามมาเข้าใจผิดว่ารถคันนั้นเสีย จนทำให้เกิดการจราจรที่ติดขัดตามมา
ขอให้ขับรถยนต์อย่างปลอดภัยทุกคนนะครับ