รีวิว realme X50 5G สเปคดี ในราคาหมื่นต้นๆ ครบเครื่อง พร้อม 5G
ปี 2020 มีโทรศัพท์มือถือ 5G ออกมากันหลายรุ่นครับ หนึ่งในรุ่นที่ผมนำมาบอกต่อในวันนี้ คือ realme X50 5G ที่กล่าวได้ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่ช่วยให้ใครหลายๆ คนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการสื่อสารยุค 5G ได้ในราคาเพียง 12,990 บาท แต่ 5G อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้อ่านหลายท่ายังรู้สึกเฉยๆ เพราะกว่าใช้งานได้เต็มรูปแบบจริงๆ ก็อาจจะต้องรออีกราวๆ 1-2 ปีครับ
อย่างไรก็ดี realme X50 5G สเปคที่ให้มาจัดว่าครบ อาทิ จอแสดงผล 120Hz, กล้องทั้งหมด 6 ตัว รวมถึงเทคโนโลยีชาร์จแบตเร็ว Dart Charge กำลังไฟ 30 วัตต์
ตัวเครื่องและหน้าจอ
สีของ realme X50 5G ที่วางขายในไทยมีสองสีครับ ได้แก่ Jungle Green และ Ice Silver ที่ผมได้จับมาครับ ซึ่งฝาหลังเป็นกระจกสะท้อนแสง ให้ความรู้สึกสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของโทรศัพท์มือถือ realme ของรุ่นนี้ครับ แต่พื้นผิวที่เป็นกระจกมันวาวก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปื้อนรอยนิ้วมือได้ง่าย ส่วนกล้องหลังยื่นออกจากฝาหลังเล็กน้อย เมื่อสวมเคสใสที่ให้มาฟรีในกล่องจะลงล็อกพอดีกับแผงกล้องที่ยื่นออกมา
หน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 2400 x 1080 พิกเซล ใส่รีเฟรชเรท 120Hz มาให้ด้วย เพิ่มประสิทธิภาพให้การทัชสกรีนได้ลื่นขึ้น เช่น การเล่นเกม หรือการเลื่อน News Feed ของ Facebook เป็นต้น แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าการเปิดรีเฟรชเรทสูงสุดจะทำให้การใช้พลังงานเยอะขึ้น แต่หากท่านใดไม่ซีเรียสกับการใช้รีเฟรชเรทสูงๆ ก็สามารถเลือกให้ระบบปรับอัตโนมัติ หรือเลือกรีเฟรชเรท 60Hz ก็ได้
จอแสดงผลนอกจากปรับความสว่างอัตโนมัติแล้ว ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่เมนูจอแสดงผลและความสว่างเพื่อเลือกเปลี่ยนไปใช้โหมดกลางคืน, โหมดถนอนสายตา หรือจะโทนสีให้เป็นแบบโทนเย็น โทนอุ่น เพื่อความสบายของการมองเห็นได้ครับ
ด้วยความที่ตัวเครื่องมีความหนาราวๆ 8.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 202 กรัม ในความคิดของผมรู้สึกว่าหนาและหนักไปนิด แต่ในความหนาอีกมุมก็คิดว่าช่วยให้เราหยิบจับถนัดมือมากขึ้น ยิ่งใส่เคสใสที่ให้มาฟรีตั้งแต่ในกล่อง ยิ่งช่วยให้จับถนัดและกระชับมือมากขึ้น
การสแกนลายนิ้วมือถูกฝังไว้ที่ปุ่มโฮมด้านขวาของตัวเครื่อง เป็นอีกตำแหน่งที่โทรศัพท์มือถือ Android หลายรุ่นเลือกใช้ตำแหน่งนี้เป็นที่สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งข้อดีของวิธีนี้เราสามารถถือเครื่องมือเดียวแล้วใช้นิ้วใดนิ้วนึงสแกนเพื่อปลดล็อกได้ทันที แต่หากวิธีนี้ไม่สะดวก ยังมีระบบจดจำใบหน้าเพื่อใช้ปลดล็อกก็เร็วใช้ได้ หรือเลือกใช้วิธีดั้งเดิมอย่างใส่รหัสผ่านก็เลือกใช้ได้ตามสะดวกครับ
ใช้ 5G ได้จริง !
สำหรับ 5G ในไทยก็มีโอเปอเรเตอร์เริ่มให้ทดลองใช้กันแล้วครับ อย่างซิมที่ผมใส่ใน realme X50 5G เป็นของ TrueMove H (เป็นซิมเติมเงินที่ซื้อเอง ไม่มีสปอนเซอร์ครับ ^^) เมื่อใส่ซิม ให้กด *552*2# แล้วกดโทรออก เพื่อเปิดใช้ 5G
แม้ 5G จะยังอยู่สถานะของการทดสอบ และยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่การมีโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 5G ออกมารอแล้ว ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะก้าวสู่ 5G อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้
กล้องถ่ายภาพ
เป็นเรื่องปกติสำหรับโทรศัพท์มือถือ Android ในปัจจุบันที่ต้องมีกล้องหลังอย่างน้อย 3-4 ตัว อย่าง realme X50 5G มีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล มี Ultra wide, Macro และ Portrait เรียกว่าจะถ่ายวิวทิวทัศน์ ถ่ายคน ถ่ายระยะใกล้ ซูมไกล 10 เท่า ก็มีให้ใช้ครบ เลือกได้ตามสะดวก
โหมดถ่ายภาพกลางคืนในโทรศัพท์มือถือ Android พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ อย่างใน realme X50 5G มี Ultra Nightscape Mode เพียงกดชัตเตอร์หนึ่งครั้ง ถือกล้องนิ่งๆ เพียงไม่กี่วินาที รอให้ระบบทำการรวมแสง เท่านี้ก็จะได้ภาพที่ให้สีสันที่ต่างออกไปจากการถ่ายด้วยโหมดปกติ จะแตกต่างขนาดไหน ชมได้จากตัวอย่างภาพครับ
โหมด Ultra wide
Ultra Nightscape Mode
การถ่ายวิดีโอมาพร้อมความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30fps ไม่สามารถใช้ร่วมกับระบบกันสั่นพิเศษได้ (กันสั่นพิเศษจะใช้ได้กับความละเอียด 1080p) และน่าเสียดายอีกเรื่องที่การถ่ายวิดีโอ 4K ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ Ultra wide ได้
กล้องหน้าเป็นเลนส์คู่ ประกอบไปด้วย เลนส์หลัก 16 ล้านพิกเซล เลนส์รอง 2 ล้านพิกเซล มีโหมดถ่ายภาพบุคคล สามารถปรับระดับเอฟเฟกต์ความเบลอหรือโบเก้ให้ฉากหลังเบลอมากเบลอน้อยก็ได้ นอกจากนี้ยังมีโหมด Nightscape Selfie สำหรับเซลฟี่ช่วงแสงน้อยและกลางคืนด้วยการใช้งานอื่นๆ
การใช้งานต่างๆ
realme X50 5G ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G ชิประดับกลางที่สามารถรองรับสัญญาณ 5G ได้ทุกคลื่น ประสิทธิภาพในการใช้งานพื้นฐานอย่างเล่น Facebook, คุยแชท, ดู YouTube หรือแม้กระทั่งการเชื่อมต่อสัญญาณต่างๆ ทำได้อย่างเป็นปกติ ลื่น ไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดแต่อย่างใด
ขณะที่แบตเตอรี่ 4200 mAh การใช้งานแบบต่อเนื่องติดต่อกันหลายๆ ชั่วโมง สลับกันทั้งดู YouTube, เล่นเกม, ถ่ายรูปด้วย, เปิด Google Maps นำทาง มีโอกาสที่แบตเตอรี่อาจอยู่ไม่ได้ทั้งวัน แต่หากท่านใดที่มีการใช้งานในลักษณะนี้เป็นประจำ ทาง realme ได้ใส่ตัวช่วยเป็นระบบชาร์จเร็ว Dart Charge กำลังไฟ 30 วัตต์ มาด้วย เป็นเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถกลับมาใช้งาน realme X50 5G ได้เร็วขึ้น เมื่อต้องวางโทรศัพท์มือถือเพื่อชาร์จแบตเตอรี่
สรุปรีวิว realme X50 5G สเปคเท่านี้ น่าใช้หรือเปล่า
จากที่ผมได้จับ realme X50 5G ในความคิดส่วนตัวมองว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่ครบเครื่องเลยครับ ตั้งแต่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่พอเหมาะแก่การมองเห็น มีเทคโนโลยี 120Hz ที่ใส่มาด้วยยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทัช การสไลด์บนหน้าจอทำได้ลื่นขึ้น
กล้องถ่ายรูปกับตัวเลือกที่ให้มาผมคิดว่าก็เพียงพอครับสำหรับการใช้จริงในชีวิตประจำวัน จะถ่ายวิวทิวทัศน์มุมกว้างๆ เวลาไปเที่ยวก็ใช้เลนส์ Ultra wide, อยากถ่ายดอกไม้ใกล้ๆ ก็ใช้เลนส์ Macro, ถ่ายกลางคืนก็มี Ultra Nightscape Mode คอยช่วย หรือจะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่กับกลุ่มเพื่อนก็ทำได้สบายๆ
การใช้งานที่สลับกันทั้งดู YouTube, เล่นเกม, ถ่ายรูปด้วย, เปิด Google Maps นำทาง ยังไม่เคยพบอาการผิดปกติหรือหน่วงให้เห็น ส่วนแบตเตอรี่ 4200 mAh จะอยู่ได้ทั้งวันหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละท่านครับ แต่อย่างน้อยการมีเทคโนโลยีชาร์จเร็วก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่เมื่อไหร่ก็ตามที่แบตเตอรี่ใกล้หมด ก็สามารถทำให้ผู้ใช้สามารถกลับมาใช้งานต่อเนื่องได้อีกครั้งภายในระยะเวลาที่เร็วขึ้น
ส่วน 5G แม้จะยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในไทย แต่ผู้ใช้ realme X50 5G ก็สามารถทดสอบความเร็วของสัญญาณได้แล้ว นับเป็นโทรศัพท์มือถือ 5G ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในปัจจุบันและรองรับ 5G อย่างเต็มรูปแบบที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
realme X50 5G ราคา 12,990 บาท เท่านั้น !!
ปิดท้ายด้วยรูปถ่ายจาก realme X50 5G