รีวิว Huawei Mate 30 Pro ยืนหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพครบเครื่องที่สุดในปี 2019
ถึง Huawei Mate 30 Pro จะทำให้บางคนรู้สึกลังเลว่าจะซื้อดีรึเปล่า เพราะการขาด Google Services ส่งผลต่อการใช้งานหลักๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การนำทางด้วย Google Maps, ดูละครย้อนหลังผ่าน YouTube ฯลฯ แต่สิ่งที่ Mate 30 Pro ยังเชิดหน้าชูตาเหนือกว่าสมาร์ทโฟนอีกหลายรุ่น นั่นคือ การถ่ายภาพ ซึ่ง DxOMark เว็บไซต์ทดสอบกล้องสมาร์ทโฟนถึงกับยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ครบเครื่องที่สุดในปี 2019 ในเวลานี้ที่ 121 คะแนน
รีวิว Huawei Mate 30 Pro โดยตามใจด็อทคอมครั้งนี้ ผมจะให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพและวิดีโอครับ และจะกล่าวถึง Huawei AppGallery เล็กน้อยครับว่า สิ่งที่ Huawei พยายามผลักดันจะทดแทน Google Services ได้จริงและให้ความสะดวกสบายกับผู้บริโภคหรือไม่ ? รวมทั้งสิ่งที่ส่วนตัวผมรู้สึกขัดใจเล็กน้อยครับ
การถ่ายภาพ
อย่างที่ผมบอกในย่อหน้าแรกครับว่า DxOMark ยกให้ Huawei Mate 30 Pro เป็นกล้องสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในปี 2019 และยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพได้ครบเครื่องที่สุด ซึ่งภาพส่วนใหญ่ผมใช้โหมด Auto ประกอบใช้ฟีเจอร์หลักๆ อย่าง Ultra Wide และซูมแบบออปติคัลระยะ 5X ไม่เสียความละเอียด
การถ่ายภาพในสภาพแสงกลางวันด้วยเลนส์ Ultra Wide ให้ทั้งมุมมองที่กว้างและสีของภาพที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสเปกของเลนส์ Ultra Wide มากับความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ครับ
การถ่ายภาพอาหารด้วย Mate 30 Pro ในโหมด Auto ควบคู่กับการเปิด AI ช่วยปรับระดับสีของอาหารให้มีสีสันมากขึ้น แต่ไม่ดูโอเวอร์เกินไป และเห็นรายละเอียดของอาหารได้ชัดเจน
การถ่ายภาพนิ่งขณะตัวแบบเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่ Mate 30 Pro แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพทั้งความไวในการโฟกัส, การจับภาพ รวมไปถึงการซูมครับ เพราะภาพผึ้งที่กำลังจะตอมเกสรดอกไม้ ผมใช้โหมด Auto ล้วนๆ ครับ อาศัยการซูมเข้าไปเล็กน้อยประกอบกับจังหวะของผมเองที่คิดว่าเหมาะสมต่อการกดชัตเตอร์ ซึ่งภาพที่ออกมาทำให้ผมทึ่งและไม่คิดว่ากล้องสมาร์ทโฟนจะมาไกลจนใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอลเข้าไปทุกทีแล้วครับ
อีกความท้าทายที่ไม่ใช่แค่ Mate 30 Pro แต่ทุกแบรนด์ต้องเจอบททดสอบ คือ การถ่ายภาพในที่แสงน้อย ซึ่งผมลองนำไปถ่ายในงาน Awakening Bangkok 2019 ครับ ในช่วงแสงน้อยพบว่า noise หรือจุดบนภาพมีให้น้อยมากๆ ซึ่งตอนที่ถ่ายผมใช้มือเปล่าล้วนๆ ครับ ขณะที่ช่วงแสงมากก็ไม่พบสภาพแสงฟุ้งและแสดงรายละเอียดได้ดีเลยครับ
ภาพถ่ายระยะ Ultra Wide, Wide angle, ซูมแบบออปติคัล 3X และ 5X
สลับมาที่กล้องหน้า ผมก็เล่าเพียงเล็กน้อยครับ ความละเอียดสูงสุดจะอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล อัตราส่วน 4:3, ความละเอียดรองลงมา 24 ล้านพิกเซล อัตราส่วน 1:1 และ 20 ล้านพิกเซล จุดนี้จะเหมาะกับเซลฟี่พร้อมกันหลายคนหน่อยครับ เพราะอัตราส่วนภาพจะขยายเต็มหน้าจอครับ
ถ่ายวิดีโอ
ใครที่ชอบถ่ายวิดีโอสามารถเลือกความละเอียดได้ตั้งแต่ 4K อัตรส่วน 16:9 ที่ 60 เฟรมต่อวินาที, 1080p และ 720p ครับ แถมยังเลือกฟิลเตอร์ให้สีของวิดีโอเป็นแบบที่เราอยากให้เป็นได้ครับ
ซึ่งคลิปวิดีโอด้านล่างที่ผมลองถ่ายใช้ความละเอียด 4K อัตรส่วน 16:9 ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และโหมด Time Lapse ครับ
Huawei AppGallery
ผมเคยเขียนบทความไว้ตอนหนึ่งครับว่า “Huawei AppGallery โหลดแอพอะไรได้บ้าง ดีพอแทน Google Play Store รึเปล่า” ซึ่งผมขอยกประโยคหนึ่งที่เขียนไว้ในบทความนั้นมาเล่าในรีวิวนี้อีกครั้งครับว่า “…Facebook, Instagram ที่คนเล่นกันแทบตลอดเวลา หรือจะเป็นแอพให้ความบันเทิงอย่าง YouTube, Netflix ที่ยังไม่มี คงทำให้หลายคนพอมีคำตอบในใจว่า Huawei AppGallery ดีพอแทน Google Play Store ได้หรือเปล่า”
สิ่งที่รู้สึกขัดใจ
Huawei Mate 30 Pro ยังมีบางอย่างที่ส่วนตัวผมรู้สึกขัดใจเล็กน้อย มี 2 อย่างครับ คือ ปุ่มเสมือน เช่น ปุ่มชัตเตอร์ถ่ายรูปบริเวณขอบโค้ง ที่หลายครั้งผมแตะไปโดนปุ่มเสมือนทำให้กดถ่ายรูปแบบไม่ตั้งใจ แถมความไวของหน้าจอสัมผัสยังทำให้บ่อยครั้งผมพยายามเลื่อนปุ่นให้ไปอยู่ไกลๆ ก็กลับเป็นการกดถ่ายรูปไปโดยปริยายอีกด้วย แต่ผมก็เข้าใจว่า Huawei พยายามอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บางคนที่มีปัญหาเวลาถ่ายรูปด้วยมือเดียว ไม่ว่าจะด้วยกล้องหน้าหรือกล้องหลังแล้วนิ้วเอื้อมไปกดปุ่มชัตเตอร์ปกติไม่ถึง
อีกจุด คือ เซ็นเซอร์ปรับระดับเสียง ซึ่งครั้งนี้ Huawei Mate 30 Pro ไม่มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงแบบเดิมแล้วนะครับ จะมีปุ่มเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ คือ ปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดหน้าจอ / เครื่อง ซึ่งการใช้งานนั้นให้แตะที่ขอบด้านขวาเหนือจะปุ่มพาวเวอร์ หลังจากนั้นจึงจะสามารถเลื่อนขึ้น-ลง เพื่อปรับระดับเสียงได้ แต่บ่อยครั้งที่ผมแตะก็แล้ว กดก็แล้ว เซ็นเซอร์กลับไม่ทำงานครับ
รีวิว Huawei Mate 30 Pro กับบทสรุปโดยตามใจด็อทคอม
โดยสรุปแล้ว Huawei Mate 30 Pro ยังเป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่ตอบโจทย์คนชอบถ่ายรูปได้เป็นอย่างดีครับ จะถ่ายภาพเวลาท่องเที่ยว, ถ่ายธรรมชาติ, ถ่ายภาพกับเพื่อน ครอบครัว หรือในงานเลี้ยงสังสรรค์ คุณภาพของภาพถ่ายที่ออกมาจะทำให้เราทึ่งกับกล้องสมาร์ทโฟนที่หลายคนเคยคิดว่าจะพัฒนาจนใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอลเข้าไปทุกที
การไม่มี Google Services ยังน่าเป็นห่วงสำหรับ Huawei แม้จะพยายามผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาใช้ Huawei AppGallery แต่ด้วยความที่แอพพื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง Facebook, Instagram, YouTube, Google Maps ย่อมทำให้ผู้บริโภคบางคนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องไอทีเกิดความลังเลใจและไม่กล้าเสี่ยงครับ
