Samsung เผยโฉม One UI และ Infinity Flex ดีไซน์หน้าจอแบบใหม่
นักพัฒนาโทรศัพท์มือถือ นักบุกเบิกนวัตกรรม และพันธมิตรกว่าพันคนตบเท้าเข้าร่วมงาน Samsung Developer Conference 2018 (SDC18) ที่จัดโดย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ งาน SDC 2018 ภายใต้คอนเซ็ปต์สุดล้ำ “Where Now Meet Next” ถือได้ว่าเป็นการรวมตัวกันเพื่อสำรวจแนวทางของเทคโนโลยีในอนาคตและการร่วมมือกันของโซลูชั่นใหม่ๆ ในวันหน้า โดยผู้ร่วมงานได้ร่วมฟังบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ในแต่ละหัวข้อต่างๆ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้เขาร่วมได้ทำความรู้จักและร่วมสาธิตผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผู้พัฒนาอุปกรณ์เคลื่อนที่แห่งอนาคต
ซัมซุง ได้เผยเครื่องมือสมรรถภาพสูงสำหรับนักพัฒนา เพื่อใช้กับแพลตฟอร์ม Bixby และ SmartThings อีกทั้งยังเผยเทคโนโลยีสุดล้ำทางด้านสมาร์ทโฟนผ่าน One UI และ Infinity Flex Display เพื่อทำให้ชีวิตที่เชื่อมต่อกับทุกอย่างเป็นความจริงได้ ซัมซุงได้พัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อนักพัฒนาและพันธมิตรในการรังสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับอุปกรณ์นับล้านชิ้นทั่วโลก
“เราได้บรรลุผลสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ IoT – Internet of Thing) ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้วิสัยทัศน์ในการสร้างชีวิตที่มีการเชื่อมต่อกับทุกสิ่งป็นความจริงได้” ดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว “ความคืบหน้าที่เกิดขึ้นกับ Bixby และ SmartThings ได้เปิดโลกใหม่ให้ผลิตภัณฑ์และการบริการจากบุคคลภายนอกสามารถผสมผสานแพลตฟอร์ม AI และ IoT ได้อย่างง่ายดาย”
“จอพับก็เป็นอีกหนึ่งพระเอกที่จะเป็นรากฐานให้เกิดการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ เราตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานร่วมกับนักพัฒนาในแพลตฟอร์มใหม่เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าของเรา”
สร้างแพลต์ฟอร์มด้าน Intelligence ที่มีความยืดหยุ่น
Bixby มีจุดเริ่มต้นเป็นอินเทอร์เฟสอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการใช้คำสั่งด้วยเสียงของผู้ใช้เพื่อทำการสื่อสารกับโทรศัพท์ ณ ตอนนี้ ซัมซุงได้มีวิวัฒนาการไปได้ถึงการมีแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อเอาไว้รองรับอุปกรณ์และบริการต่างๆ ที่มีความหลากหลายในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค และที่งาน SDC18 ซัมซุงได้เผยถึงแนวทางใหม่ๆ ที่ให้นักพัฒนาได้นำแพลตฟอร์มผู้ช่วยอัจฉริยะนี้มาทำให้มีความเป็นส่วนตัว และมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคได้มากขึ้นอย่างไร
เพื่อให้เป็นการง่ายขึ้นต่อนักพัฒนาในการต่อยอดการพัฒนาบริการต่างๆ ผ่าน Bixby ทางซัมซุงได้เปิดตัว Bixby Developer Studio ที่เป็นศูนย์รวมของเครืองมืออัจฉริยะที่ง่ายต่อการใช้ เป็นที่ที่นักพัฒนาและพันธมิตรได้ผสมผสานแพลตฟอร์มอัจฉริยะให้เข้ากับอุปกรณ์และบริการต่างๆ ให้เพิ่มมากขึ้น นักพัฒนาสามารถสร้าง Bixby Capsules ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังง่ายต่อการสร้างสรรค์ฟีเจอร์หรือบริการที่สร้างมาเพื่อ Bixby และทำให้ง่ายต่อการเข้าถึง Bixby Marketplace ของผู้บริโภคได้อีกด้วย แพลตฟอร์ม Bixby ช่วยทำให้นักพัฒนาสามารถปรับเปลี่ยนแคปซูลจากแพลตฟอร์มโทรศัพท์เคลือนที่และโทรทัศน์ไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของซัมซุงได้อย่างง่ายดาย
เพื่อให้เป็นการช่วยขยายแพลตฟอร์ม Bixby ให้ได้กว้างขวางมากขึ้น ซัมซุงได้พัฒนาให้แพลตฟอร์มรองรับภาษาใหม่ ได้อีกห้าภาษาภายในเดือนถัดๆ ไป รวมถึงภาษาอังกฤษแบบบริติช ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาเลี่ยน และภาษาสเปน
ส่งมอบชีวิตที่เชื่อมต่อให้กับทุกคน
วิสัยทัศน์ของชีวิตแห่งการเชื่อมต่อของซัมซุงนั้นถูกสร้างบนระบบ IoT แบบเปิด ที่รวบรวมเอาอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกันที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มาไว้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน สมาร์ทธิงส์ แอพที่มีพร้อมใช้งานในกว่า 200 แห่งทั่วโลกสามารถให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อได้ผ่านแอปพลิเคชั่นเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้ IoT เข้ามามีบทบาท ช่วยให้บ้าน รถ สำนักงาน และทุกๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้มากกว่าความอัจฉริยะ
ซัมซุงกำลังช่วยให้นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์และบริการของตนกับสมาร์ทธิงส์ แอพด้วยชุดเครื่องมือใหม่ๆ ใน SmartThings Developer Workspace ที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น เครื่องมือที่ได้รับการปรับปรุงเหล่านี้ประกอบด้วย SmartThings Cloud Connector, SmartThings Device Kit และ SmartThings Hub Connector โดยนักพัฒนาสามารถสร้างและเปิดตัวแพลตฟอร์มรวมทั้งรวมอุปกรณ์ Zigbee และ Z-Wave ที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ภาพจาก Samsung