อัพเดท iOS 13 รุ่นไหนได้ไปต่อ อัพได้เมื่อไหร่ อัพแล้วมีอะไรใหม่
จากงาน WWDC 2019 หรืองานประชุมนักพัฒนาประจำปีของ Apple เป็นไปตามความคาดหมายเมื่อ iOS 13 เผยโฉมเวอร์ชัน Beta ให้ผู้ใช้ iPhone ทั่วไปได้ชมเชย ก่อนจะออกเวอร์ชันเต็มในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
อัพเดท iOS 13 เวอร์ชันเต็ม หากไม่มีอะไรผิดพลาด คนใช้ iPhone ทั่วไปจะได้รับรู้วันอัพเดทอย่างเป็นทางการในงานเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่เดือนกันยายน
รวม iPhone, iPod ทุกรุ่นที่ได้อัพเดท iOS 13
– iPod touch 2019
– iPhone SE
– iPhone 6s, 6s Plus
– iPhone 7, 7 Plus
– iPhone 8, 8 Plus
– iPhone X
– iPhone XR
– iPhone XS, XS Max
– iPhone XS, iPhone XS Max
อุปกรณ์ที่ไม่ได้ต่อกับ iOS 13
– iPod Touch Gen 6
– iPad mini 2
– iPad Air รุ่นแรก
– iPhone 6, 6 Plus
– iPhone 5C
– iPhone 5S
iOS 13 อัพแล้ว มีอะไรใหม่ (อ้างอิงข้อมูลจาก Apple)
– Dark Mode ธีมสีเข้มที่ใช้งานได้ทั่วทั้งระบบและในแอพที่มาพร้อมเครื่องทั้งหมด
– ปรับปรุงแอพรูปภาพพร้อมการค้นหาที่ง่ายกว่าเดิมและเครื่องมือแก้ไขที่ดียิ่งขึ้น
– เพิ่มการปรับแต่งแสงจากภาพถ่ายบุคคล
– Sign In with วิธีใหม่ในการลงชื่อเข้าใช้แอพและเว็บไซต์อย่างเป็นส่วนตัว ง่ายดาย และรวดเร็วยิ่งขึ้น เพียงแค่ใช้ Apple ID ก็สามารถยืนยันตัวตนได้แล้วโดยไม่ต้องใช้บัญชีโซเซียลมีเดีย
– ปรับปรุงการแสดงผลบน Apple Maps เพิ่มคุณสมบัติ Look Around ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยฐานแผนที่และรูปถ่าย 3 มิติความละเอียดสูง
– เพิ่มคุณสมบัติในเมนูเตือนความจำ เพิ่มแถบเครื่องมือด่วนช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มเวลา วันที่ สถานที่ และธงได้ง่ายขึ้น หรือจะเพิ่มเอกสารแนบก็ได้ นอกจากนี้ยังใช้งานร่วมกับแอพข้อความได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้จะสามารถแท็กคนอื่นในการเตือนความจำได้อย่างง่ายดาย และรายการจะแสดงขึ้นมาเมื่อผู้ใช้ส่งข้อความหาผู้ที่อยู่ในแท็ก
– แอพข้อความ สามารถแชร์ชื่อและรูปภาพของผู้ใช้ รวมถึง Memoji หรือ Animoji แบบปรับแต่งได้โดยอัตโนมัติ
– Siri มาพร้อมเสียงใหม่ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นและคำสั่งลัด Siri รองรับ Suggested Automations แล้ว
– ปรับปรุง CarPlay สามารถดูเพลง แผนที่ และอีกมากมายได้แล้วในมุมมองเดียว อีกทั้งยังมีแอพปฏิทินใหม่และการรองรับ Siri สำหรับการนำทางและแอพฟังเพลงของบริษัทอื่น
– ปรับปรุง HomePod สามารถแยกแยะเสียงของผู้ใช้จากเสียงของคนอื่นๆ ในบ้านได้แล้ว
– AirPods ช่วยให้ Siri อ่านข้อความที่เข้ามาได้ทันทีจากแอพข้อความที่มาพร้อมเครื่องหรือแอพข้อความอื่นๆ ที่ใช้งานร่วมกับ Siri Kit ได้
– แอพ Note มาพร้อมมุมมองแกลเลอรี่ใหม่ การผสานรวมกับโฟลเดอร์ที่แชร์ รวมถึงเครื่องมือค้นหาและตัวเลือกรายการตรวจสอบใหม่
– QuickPath ช่วยให้การพิมพ์แบบมือเดียวบนคีย์บอร์ด iOS เป็นไปอย่างง่ายดายด้วยการปัดนิ้วผ่านตัวอักษรของคำที่ต้องการพิมพ์
– การแก้ไขตัวอักษรที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยให้ผู้ใช้เลื่อนเอกสาร ขยับเคอร์เซอร์ และเลือกตัวอักษรที่ต้องการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
– แอพ File มาพร้อมความสามารถในการแชร์โฟลเดอร์กับ iCloud Drive และการเข้าถึงไฟล์จากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกอย่างการ์ด SD และแฟลชไดร์ฟ USB
– แอพ Health ช่วยให้ผู้ใช้ติดตามสุขภาพการได้ยินและเพิ่มวิธีใหม่ๆ ในการติดตาม แสดงผลด้วยภาพ และคาดการณ์รอบการมีประจำเดือนของผู้หญิงได้
– บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง มาพร้อมการควบคุมใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเพิ่มเติมในการแชร์ตำแหน่งที่ตั้งกับแอพ รวมถึงตัวเลือกใหม่ในการแชร์ตำแหน่งที่ตั้งแบบหนึ่งครั้ง และข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อแอพกำลังใช้งานตำแหน่งที่ตั้งอยู่เบื้องหลัง
– การปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มเติมทำให้ทั้งระบบตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อคด้วย Face ID ที่รวดเร็วกว่าเดิม และวิธีการจัดแพ็คเกจแอพ iPhone แบบใหม่บน App Store ที่ช่วยให้ขนาดดาวน์โหลดของแอพลดลงถึง 50% ช่วยให้การอัพเดทแอพเล็กลงกว่า 60% ซึ่งส่งผลให้การเปิดแอพเร็วขึ้นถึงสองเท่าอีกด้วย
– Find My แอพที่เกิดจากการรวมกันระหว่าง Find My Friends และ Find My iPhone สามารถติดตามอุปกรณ์ที่เป็น iOS หรือ macOS ได้ แม้อุปกรณ์นั้นไม่ได้เชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Cellular และช่วยบอกตำแหน่งของอุปกรณ์ได้หากโดนขโมย (อ้างอิงข้อมูลจาก The Verge)
ภาพจาก Apple
ปัจจุบัน (26 มีนาคม 2563) Apple ออกอัพเดต iOS 13.4 และ iPadOS 13.4 แล้ว
อ่านเพิ่มได้ > ที่นี่ <
